ความลับและคำแนะนำในการทานอัลมอนด์ เพื่อได้ประโชยน์ครบถ้วน

ความลับและคำแนะนำในการทานอัลมอนด์

ความลับและคำแนะนำในการทานอัลมอนด์ เมล็ดอัลมอนด์เราคงจะเคยเห็นอยู่ทั่วไป แต่ถ้าพูดถึงต้นอัลมอนด์ก็คงจะไม่ค่อยได้เห็นกันใช่ไหมหล่ะคะ ต้นอัลมอนด์เป็นไม้ผลัดใบ สูงประมาณ 4-10 เมตร ใบเป็นขอบหยักยาวประมาณ 3-5 นิ้ว ดอกอัลมอนด์มีสีขาวหรือชมพูอ่อน มีกลีบ 5 กลีบ ผลอัลมอนด์ ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาล ในผลมีเมล็ดเดียว มีเปลือกชั้นนอกอยู่และมีเปลือกแข็งหุ้มเมล็ด โดยเมล็ดสามารถนำมารับประทานได้ อีกทั้งอัลมอนด์ยังมีถึง 2 ชนิด ด้วยกัน

1.อัลมอนด์ชนิดหวาน ( Sweet Almond ) อัลมอนด์ชนิดนี้เป็นที่นิยมนำมาทานเล่น หรือนำไปปรุงอาหารทั้งคาวและหวาน นอกจากการปรุงรับประทานแล้วยังนำไปสกัดทำน้ำมันอัลมอนด์ เพื่อใช้การปรุงอาหารแทนน้ำมันพืชชนิดอื่น อัลมอนด์สายพันธุ์นี้ดอกจะมีสีขาว เมล็ดยาวกว่าสายพันธุ์บิทเทอร์เล็กน้อย

2.อัลมอนด์ชนิดขม ( Bitter Almon ) เป็นอัลมอนด์ที่เราไม่สามารถรับประทานได้ทันที เราต้องนำไปสกัดน้ำมันหรือสกัดสารอาหารที่มีประโยชน์ออกมาใช้แทนการรับประทานเล่น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในอัลมอนด์ชนิดนี้จะมีสารพิษที่ชื่อว่าสารไซยาไนด์ ( Cyanide ) สารนี้มีอัตรายถึงตายได้เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกาย อัลมอนด์สายพันธุ์นี้มีดอกสีชมพู เมล็ดอ้วนแป้นและมีขนาดเล็กกว่าพันธุ์หวาน และอัลมอนด์นั้นจะขายทั้งแบบพร้อมเปลือกและแบบไม่มีเปลือก หรือนำไปผ่านน้ำร้อนเพื่อทำให้เปลือกอ่อนและเมล็ดยังเป็นสีขาว

คำแนะนำในการทานอัลมอนด์

เมล็ดอัลมอนด์ แช่น้ำจะย่อยง่ายกว่า โดยเฉพาะเด็กและผู้ที่มีอายุ 51 ปีขึ้นไป วิธีการก็คือเพียงแค่นำเมล็ดอัลมอนด์ไปแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นก็นำมารับประทาน หรือทำเป็นนมอัลมอนด์ โดยปั่นรวมกับน้ำแล้วกรองแยกเอากากออก

หลายคนสงสัยว่าเปลือกอัลมอนด์ กินได้ไหมและที่อัลมอนด์แช่น้ำมีประโยชน์กว่าหรือไม่ ? คำตอบคือ เปลือกกินได้ก็เป็นเพราะว่าปกติในเปลือกสีน้ำตาลที่หุ้มของเมล็ดอัลมอนด์จะมีสารยับยั้งไม่ให้มีการปลดปล่อยเอ็นไซม์ เพื่อไม่ให้เมล็ดอัลมอนด์งอกเป็นต้น หลังจากแช่น้ำแล้วสารอาหารในอัลมอนด์จะเพิ่มขึ้น เป็นการเลียนแบบธรรมชาติ เหมือนกับที่เวลาเมล็ดได้รับน้ำหรือความชุ่มชื้น ขบวนการทางเคมีภายในเมล็ดจะเปลี่ยนแปลงทำให้เมล็ดพืชงอกออกมาเป็นต้นนั่นเอง ร่างกายของเราก็จะย่อย และดูดซึมเอาสารอาหารที่ประโยชน์เหล่านั้นไปใช้ได้อย่างเต็มที่ แถมเนื้ออัลมอนด์จะนิ่ม และเคี้ยวง่ายขึ้นอีกด้วย

วิธีแช่เมล็ดอัลมอนด์

ใส่เมล็ดอัลมอนด์ ½ ถ้วย ในน้ำสะอาด 2 ถ้วย แช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ประมาณ 10-12 ชั่วโมง วันถัดมาให้รินน้ำทิ้ง แล้วนำอัลมอนด์ไปใส่ในกระปุกหรือถุงพลาสติก แล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถเก็บอัลมอนด์ไว้รับประทานได้เป็นอาทิตย์ อีกทั้งเมล็ดอัลมอนด์ที่กำลังงอกจะนิ่มและมีรสชาติที่หวานขึ้น

และนี่ก็เป็นเคล็ดลับเล็ก ๆ ในการเลือกทานอัลมอนด์แต่หากใครที่อยากได้ความสะดวกสบาย แถมสารอาหารครบถ้วนเราขอแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพอย่างนมอัลมอนด์ Maxgrainta ที่ให้มากกว่าความอิ่มอร่อยและเต็มไปด้วยคุณภาพที่เราคัดสรรมาแล้วเพื่อคุณ

ส่วนประกอบที่สำคัญของนมอัลมอนด์ Maxgrainta

โดยส่วนประกอบที่เราได้เห็นกันแล้วนั้น บอกเลยค่ะว่าแค่ส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตนมอัลมอนด์ขึ้นมาแล้วนั้นก็เต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย ได้ความสดชื่นจากน้ำแร่และความหวานธรรมชาติจากน้ำตาลดอกมะพร้าวที่เหมาะสำหรับผู้ควบคุมระดับน้ำตาล อีกทั้งยังมีโปรตีนจากถั่วลันเตาและมีใยอาหารที่สามารถละลายน้ำได้ ช่วยจัดการน้ำหนักได้ดีสามารถทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติกและที่พลาดไม่ได้เลยคือนมอัลมอนด์ Maxgrainta มีสารสกัดจากถั่วขาว ผลงานวิจัยทางคลินิคยืนยันว่าหลังได้รับประทานสารสกัดถั่วขาวแล้วช่วยลดการดูดซึมแป้งมากถึง 66 เปอร์เซ็นต์ และช่วยควบคุมการลดน้ำหนักได้ โดยสรุปสารสกัดถั่วขาวสามารถช่วยลดน้ำหนักและลดระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปในการย่อยคาร์โบไฮเดรตจากฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อะไมเลส ยังส่งผลให้ลดโอกาสเสี่ยงเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินซึ่งเป็นสาเหตุก่อโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

คุณค่าทางสารอาหารของนมอัลมอนด์

คราวนี้เรามาดูคุณค่าทางสารอาหารของนมอัลมอนด์กันค่ะ ใน 1 ขวดเราจะได้นมอัลมอนด์ที่รสชาติอร่อยและได้ประโยชน์จากสารอาหารที่จำเป็นกับเรามากแค่ไหน

สรุปแล้วนมอัลมอนด์นั้นมีประโยชน์เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น การบำรุงผิวพรรณ ช่วยลดระดับในคลอเลสเตอรอล บำรุงกระดูกและฟัน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความดันโลหิต แค่นี้ก็สุดยอดแล้วใช่ไหมหละคะ หากใครที่กำลังดูแลสุขภาพและกำลังมองหาทางเลือกดี ๆ ให้กับตัวเองหรือคนที่คุณรัก ก็สามารถเลือกผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์ Maxgrainta ไว้ติดตู้เย็นเพื่อสุขภาพที่ดีในทุก ๆ วันได้ค่ะ สามารถสั่งซื้อได้ที่ www.maxgrainta.com/นมอัลมอนด์