5 โรคร้ายยอดฮิต เสี่ยงกับชีวิตคนไทยมากที่สุด

5 โรคร้ายยอดฮิต เสี่ยงกับชีวิตคนไทยมากที่สุด อันที่จริงการกล่าวว่าโรคยอดฮิตก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ เพราะคงไม่มีใครอยากป่วย แต่ทุกวันนี้คนไทยหลายคนมีโรครุมเร้าเหลือเกิน ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราต่างเผชิญไวรัส COVID-19 มาอย่างยาวนาน แต่ก็อย่าลืมว่าโรคอื่นๆ ยังคงความอันตราย และมีอัตราการป่วยอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน เราอาจจะกลัวและระมัดระวังเกี่ยวกับ COVID-19 จนอาจทำให้ลืมไปว่าโรครอบตัวเราไม่ได้มีแค่โรคนี้โรคเดียวเท่านั้น เพราะการใช้ชีวิตประจำวันที่มีความเครียดสะสม และอีกทั้งยังมีชีวิตที่มีความเร่งรีบตลอดเวลา จนทำให้มีเวลาดูแลสุขภาพและออกกำลังกายน้อยลง สิ่งเหล่านี้คือต้นตอของโรคร้ายไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่ควรระวัง ดังนั้นบทความนี้จะพาเราไปดูกันว่าคนไทยป่วยเป็นโรคอะไรกันมากที่สุด ?

1. โรคมะเร็ง

ปัจจุบันโรคมะเร็งยังคงน่ากลัวและยังครองโรคร้ายแรงอันดับหนึ่งในไทยอยู่ ซึ่งล้วนเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การกินอาหาร สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือตากแดดมากเกินไป  ทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคมะเร็งต่างๆ ได้

• มะเร็งในผู้หญิง : สำหรับมะเร็งเต้านม ถือเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยสุดในผู้หญิง และมีโอกาสจะพบสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการกินอาหารที่มีไขมันมาก แล้วไม่ออกกำลังกาย
• มะเร็งในผู้ชาย : โรคมะเร็งที่พบในผู้ชายมากที่สุดอันดับหนึ่งก็คือ มะเร็งตับ ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมชอบ อาหารไหม้เกรียม อาหารที่ใส่สารกันบูด หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน และรองลงมาก็จะเป็นมะเร็งปอด โรคนี้เกิดจากการสูบบุหรี่ หรืออากาศที่มีฝุ่นละออง ก็จะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งสูงกว่าคนอื่น

2. โรคหัวใจ

โรคร้ายแรงนี้เกิดจากหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบหรือตัน จนไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้ดี ทำให้เลือดนำออกซิเจนไหลผ่านน้อยลง อาจเกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย และหายใจไม่สะดวก ส่วนพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจก็คือ การกินอาหารที่มีไขมัน หรือน้ำตาลสูง และไม่ยอมออกกำลังกาย รวมถึงปัจจัยความเครียดร่วมเช่นกัน

3. โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานคือหนึ่งสัญญาณเตือนภัยใกล้ตัวที่เตือนว่า คุณกำลังมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ อันเนื่องมาจากร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลิน  ทำให้ร่างกายเกิดภาวะเเทรกซ้อนต่อระบบต่างๆ มาจากพฤติกรรมการกิน โดยเฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงอย่างเช่น แป้ง และน้ำตาล หากกินเป็นปริมาณมากๆ ก็ทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสะสมมากเช่นกันดังนั้นการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจะช่วยลดการเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานได้

4. โรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่มักไม่ค่อยแสดงอาการมากนัก โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม ภาวะโรคอ้วน พฤติกรรมการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง  อีกทั้งคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง และชอบทานอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เหตุผลนี้เองจึงทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าปกติ

5. โรคไต

โรคนี้ไม่ได้เกิดในเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น หนุ่มสาววัยทำงาน หรือแม้กระทั่งเด็กก็สามารถเสี่ยงเกิดโรคไตได้ ล้วนมาจากพฤติกรรมการกินทั้งนั้น โดยเฉพาะอาหารเค็มจัด อาหารดอง อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว หรือซอสปรุงรสเทียม  ทั้งหมดนี้จัดเป็นสารอาหารที่มีสารโซเดียมและโพแทสเซียมสูงส่งผลให้ระบบไตทำงานลดลง จนกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือทำให้หัวใจเต้นผิดปกติได้

จะเห็นได้ว่าโรคแต่ละโรคที่กล่าวมานั้น ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงนั้น ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการกินซึ่งพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ ส่งผลต่อร่างกายแบบเงียบๆ โดยอาการของโรคจะดำเนินไปอย่างช้าๆ จะไม่ป่วยในทันที แต่ค่อยๆ สะสมและป่วยเรื้อรังในที่สุด ดังนั้นหากเราเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ลดอาหารและเครื่องดื่มที่น้ำตาลสูงหรือโซเดียมสูง หรือหากใครที่ชื่นชอบดื่มนม การเปลี่ยนจากนมวัวที่ทานกันทั่วไปเป็นนมอัลมอนด์ก็จะดีกว่า เพราะนอกจากจะให้แคลเซียมสูงพอๆ กับนมวัวแล้ว ที่สำคัญคือไม่มีคอเลสเตอรอลและนมอัลมอนด์ยังมีไขมันดีชนิดไม่อิ่มตัวที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมัน ควบคุมน้ำหนัก ไม่เพียงเท่านี้นมอัลมอนด์ยังป้องกันมะเร็งช่วยบรรเทาการอักเสบอีกด้วย

แค่ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เลือกกินแต่ของที่มีประโยชน์ก็ช่วยให้ห่างไกลโรคร้ายแรงและยังช่วยเสริมสุขภาพให้ดีขึ้นด้วยค่ะ หากใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพดีในทุกๆ วันสามารถคลิกดูผลิตภัณฑ์นมถั่วที่ผสมสารสกัดนำเข้าอย่างเช่น นมถั่วพิสตาชิโอและนมถั่วแมคคาเดเมีย ของเราได้ที่ www.maxgrainta.com

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 098-919-2890

Line ID : maxgrainta

Facebook : MaxGrainta

E-mail : maxgrainta@gmail.com